ควรยกเลิกไหม ‘ทัศนศึกษา’ ชาวเน็ตเสียงแตก บอกดูแลไม่ได้ก็ไม่ต้องจัด

ยกเลิกไหม ‘ทัศนศึกษา’
ชาวเน็ตเสียงแตก บอกดูแลไม่ได้ก็ไม่ต้องจัด อีกเสียงบอกแก้ต้นเหตุ

ถกสนั่น หัวข้อ “ยกเลิกทัศนศึกษา” ทำชาวเน็ตเสียงแตกมองกัน 2 มุม กลุ่มให้ยกเลิกบอกถ้าดูแลไม่ได้ก็ไม่ควรจัด ด้านมุมของกลุ่มไม่อยากให้ยกเลิกเผย ทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายใครประเด็นมันอยู่ที่คนขับ กับ มาตรฐานของสภาพรถ
จากกรณี เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยานี เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน ขาเข้า ก่อนถึงอนุสรณ์สถาน เบื้องต้นมีรายงานว่ามีเด็กนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อย่างไรก็ตาม พบว่าในสังคมออนไลน์ได้มีการถกเถียงกันอย่างมากใน 2 ประเด็นว่าควรจะมีการทัศนศึกษาต่อหรือไม่ หรือควรจะยกเลิกไป
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “P Biwa Aumchansa” ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า

“ทัศนศึกษาไม่ควรยกเลิก อย่าปิดกั้นจินตนาการและความรู้ของเด็กๆ
แต่ช่วยยกมาตรฐานรถให้บริการทัศนาจรให้ปลอดภัยมากกว่านี้ดีกว่า”
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก
บางคอมเมนต์บอก “เกลียดที่บอกว่าให้ยกเลิก แล้วเด็กๆ คือไม่กะจะเปิดโลกให้เขาเลยหรอ ทำไมทีของผู้ใหญ่เกิดเหตุไม่เรียกร้องบ้างว่าให้ยกเลิกเที่ยว ทั้งที่มันเกิดจากความบกพร่องของตัวรถและเป็นอุบัติเหตุ ไม่ใช่ความผิดของการทัศนศึกษาเลย”

“ต้นเหตุมาจาก การที่คุมมาตราฐานความปลอดภัยของรถโดยสาร ไหนจะคนขับรถที่ไม่อยากจะพูด…. เราเข้าใจนะว่า ทัศนศึกษาคือกิจกรรมที่ดี แต่ผู้ปกครองแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้อ่ะ โรงเรียนก็จัดการเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน ก็ต้องมาแก้ที่ปลายเหตุ คือไม่ให้ลูกไป”
“เห็นด้วยกับทางนี้มากกว่านะ เพราะว่าตอนเราเรียนเราก็ปวดหัวกับห้องเรียน วิชาเรียน และอื่นๆ การได้มาเที่ยวกับเพื่อนในเชิงนี้ถือว่าเป็นอีก1ในสีสัน
เพียงแต่ว่า กรณีที่เกิดเหตุการณ์ร้าย เหตุการณ์ฉุกเฉิน ควรมีมาตรการเด็ดขาดทั้งตัวบุคคลและสภาพยานพาหนะ”

“ทั้งเรื่องเซฟตี้ เรื่องมาตรฐานรถ เรื่องคนขับ เรื่องการฝึกเด็กๆในการเอาตัวรอด คุณคิดว่าต้องใช้เวลากี่ปี ตรวจสภาพรถทุกปีมีจริงไหมระบบไทยๆคุณก็น่าจะรู้อยู่
ในระหว่างที่กำลังหาวิธีป้องกันแก้ไขกันอยู่นี้ถ้ายังเกิดเหตุซ้ำอีกใครจะรับผิดชอบ ผมคนนึงที่ไม่เคยเต็มใจให้ลูกไปทัศนะศึกษาไกลๆแต่ด้วยการที่ไม่อยากให้ลูกเป็นแกะดำ ไม่ผ่านกิจกรมเลยต้องจำยอม”
“รถควรมีการตรวจเช็คตลอดเนอะ ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัย ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิก เพราะเราก็ให้ลูกไปกับโรงเรียน ไปกับเพื่อนกับไปกับที่บ้านเด็กรู้กสึกไม่เหมือนกันหรอก”

“อันนี้ต้องถามว่าเขามี TSM หรือป่าว อันนี้คือสิ่งสำคัญมาก TSM ขนส่งทางบก ก็เห็นเดินเรื่องอยู่ … ขนาดรถเมล์ในกรุงเทพ วิ่งไกลสั้นๆ เซฟตี้อะไรตอไร ตรวจกันตลอด รถเมล์ไฟฟ้าเอกชน หรือ นครชัยแอร์ ยังมีมาตรการพวกนี้”
“ควรยกเลิกรถติดแก๊สและการตรวจสภาพที่เป็นมาตรฐานสากลจริงๆ น่าจะดีกว่า”
ด้านชาวเน็ตที่สนับสนุนการยกเลิกจัดทัศนศึกษา ก็ได้ออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นเช่นกันว่า
“ถ้าดูแลไม่ทั่วถึงก็อย่าจัดเลย”

“จากใจแม่ที่มีลูกเล็กวัยนี้ มันแตกสลาย แล้วยิ่งตามต่างจังหวัด ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่มีในแต่ละตำบล พาเด็กเล็กเตรียมอนุบาลไปทัศนศึกษาโดยการเหมานั่งรถโดยสารประจำทาง
บ้านเราเรียกสองแถว ผู้ใหญ่นั่งก็ไม่สบายเบาะมันลื่น เด็กๆตัวเล็กๆต้องนั่งแบบนั้นไป ถ้าเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักหรือคว่ำมาก็คือเทกระจาดเลย ควรยกเลิกได้แล้วค่ะ อย่าคิดหาแต่งบพาเด็กไปทัศนศึกษา
จริงๆค่าใช้จ่ายมันไม่ได้มากมาย แต่ได้งบมาก็เข้ากระเป๋ากัน ถ้ายังจะให้มีจริงๆก็พิจารณาให้เป็นเด็กโตมัธยมขึ้นไปที่เขารู้จักดูแลตัวเองได้
อย่างน้อยๆก็รู้ว่าหาทางออกทางไหน นี่เด็กๆคงจะวิ่งหนีแต่ไม่รู้จะไปทางไหน สงสารชีวิตเด็กน้อยต้องมาจบแบบนี้ คนรอดก็จะต้องมามีภาพจำติดตาแบบนี้ตลอดไป”

“+1ค่ะ ยกเลิกไปเลยไม่ต้องมีออกนอกสถานที่ สงสารเด็กๆ มากๆ ผู้ปกครองจะใช้ชีวิตยังงัย ลูกไม่ได้กลับบ้านแล้ว”
“ใช่อะไรที่รับผิดชอบชีวิตลูกเขาไม่ได้ ก็อย่าจัดเลย เผื่อมันมีเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ แล้วรับผิดชอบชีวิตคนไม่ไหวก็อย่าจัดเลย”

นอกจากนี้ รักชนก ศรีนอก ส.ส.จากพรรคประชาชน ได้ออกมาโพสต์ข้อความในมุมมองของตนเองเกี่ยวกับประเด็นดรามา “ยกเลิกทัศนศึกษา” โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
“ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้ยกเลิกทัศนศึกษาของเด็กๆ
นั่นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ไม่ตอบโจทย์ทั้งจะเป็นการปิดโอกาสของเด็กๆอีกด้วยการพาเด็กๆไปเปิดประสบการณ์ในที่ใหม่ๆเช่น การไปพิพิธภัณฑ์ ไปท้องฟ้าจำลอง
ไปสวนสัตว์สำคัญกับการเติบโตของเด็กมากๆ และเด็กหลายคนมีข้อจำกัดที่พ่อแม่ไม่มีทั้งทรัพยากรเงินและเวลาโอกาสที่ได้เปิดหูเปิดตาคือโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาถ้าจะแก้ปัญหาที่ต้นตอ

ต้องจี้เรื่องการตรวจสภาพรถคนขับประมาทที่จุดไหน ใบขับขี่ถูกต้องไหมโรงเรียนทั่วประเทศควรมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุในทุกกรณีอย่างสม่ำเสมอบ่อยแค่ไหน
สอนเด็กๆและคุณครูเรื่องการเอาตัวรอดในสถานการณ์แบบต่างๆรวมถึงการจำกัดระยะทางในการทัศนศึกษาในระยะทางที่เหมาะสมกับการเดินทางเช่นนี้จะช่วยปิดโอกาสเหตุเช่นนี้ที่เกิดขึ้นในอนาคตได้ดีมากกว่า และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องทำอย่างจริงจัง
ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียทุกท่านด้วยค่ะ”

Screenshot 2024 10 01 132200

18

5

1727842018145

1727842009661

1727841995343